“ไดกิ้น” ก้าวสู่ยุคสมาร์ทไลฟ์เต็มตัว จับมือการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคสนับสนุนการพัฒนา PEA HiVE Platform สร้างนวัตกรรมใหม่เพื่อบ้านอัจฉริยะและประหยัดพลังงานอย่างแท้จริง
- Published on Monday, 24 July 2017 23:34
- Written by เอแพ็คแอร์ฯ
- Hits: 62984
“ไดกิ้น” ก้าวสู่ยุคสมาร์ทไลฟ์เต็มตัว จับมือการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคสนับสนุนการพัฒนา PEA HiVE Platform สร้างนวัตกรรมใหม่เพื่อบ้านอัจฉริยะและประหยัดพลังงานอย่างแท้จริง
บริษัท สยามไดกิ้นเซลส์ จำกัด ผู้นำนวัตกรรมด้านระบบปรับอากาศไดกิ้น จับมือการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ร่วมพัฒนา PEA HiVE Platform สร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ พัฒนาระบบเครื่องใช้ไฟฟ้าอัจฉริยะภายในบ้านก้าวสู่สังคมสมาร์ทไลฟ์เต็มรูปแบบ
ในยุคสมัยที่เทคโนโลยีต่างๆ ก้าวล้ำหน้าไปไกลโดยเฉพาะการสื่อสารผ่านโทรศัพท์สมาร์ทโฟนและอินเทอร์เน็ต ทุกภาคส่วนต้องปรับตัวรับกระแสให้ทันท่วงที เพื่อตอบสนองความต้องการที่หลากหลายขึ้นของผู้คนในปัจจุบัน ตลอดจนสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ ที่จะเป็นประโยชน์ต่อผู้ใช้งาน สังคม และต่อโลกได้มากที่สุด เช่นเดียวกับไดกิ้น ผู้นำด้านนวัตกรรมระบบปรับอากาศระดับโลกที่ใส่ใจในการอนุรักษ์พลังงานและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งได้พัฒนาระบบปรับอากาศให้ตอบรับกับความก้าวหน้าของเทคโนโลยีและความต้องการที่หลากหลายอยู่เสมอ ฉะนั้นในยุคสมาร์ทไลฟ์ที่ทุกสิ่งทุกอย่างต้องมีความอัจฉริยะ ควบคุมการทำงานได้ง่าย สะดวก และรวดเร็ว รวมถึงเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน ไดกิ้นจึงมีวิสัยทัศน์ที่จะก้าวสู่สังคมแห่งความสมาร์ทอย่างเต็มตัว
สมพร จันกรีนภาวงศ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท สยามไดกิ้นเซลส์ จำกัด ได้กล่าวถึงการพัฒนาไปอีกขั้นของระบบปรับอากาศไดกิ้นว่า “ในอดีตเราควบคุมเครื่องใช้ไฟฟ้าด้วยรีโมทคอนโทรล เมื่อมีสมาร์ทโฟนเข้ามาจึงเริ่มใช้สมาร์ทโฟนในการควบคุมแทน แต่ส่วนใหญ่ยังเป็นการควบคุมในลักษณะ in home กระทั่งปัจจุบันระบบความเร็วและการสื่อสารทางอินเทอร์เน็ตค่อนข้างเสถียร จึงมีการพัฒนาให้สามารถควบคุมในแบบ out of home ได้มากยิ่งขึ้น ซึ่งการควบคุมอุปกรณ์และเครื่องใช้ไฟฟ้าแบบสมาร์ทจำเป็นอย่างมากต่อการใช้ชีวิตในปัจจุบัน เพราะในสังคมมีความต้องการที่หลากหลายมากขึ้น เช่น ความต้องการในแง่ของการประหยัดพลังงาน ความต้องการในแง่ของความสะดวกสบาย หรือมีความจำเป็นบางประการ ยกตัวอย่างเช่น ประเทศไทยกำลังก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ บ้านที่มีผู้สูงอายุอยู่ด้วย หากมีโรคประจำตัวอย่างอัลไซเมอร์แล้วไม่มีคนดูแลตลอดเวลา ก็สามารถใช้ความสมาร์ทของเครื่องใช้ต่างๆ เหล่านี้ให้เข้ามาดูแลแทนได้ ซึ่งระบบปรับอากาศที่เรามีอยู่ก็สามารถเช็คได้ว่าผู้สูงอายุอยู่ตรงไหนของบ้าน เพื่อเปิดหรือปิดเครื่องปรับอากาศในจุดนั้นๆ ขณะที่เราไม่อยู่บ้านได้ หรือหากลืมปิดเครื่องปรับอากาศก็สามารถปิดได้จากนอกบ้าน นี่คือความจำเป็นในการใช้งานระบบสมาร์ทในอนาคต”
และเพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาระบบอัจฉริยะและสมาร์ทโฮมให้เกิดขึ้นจริงในประเทศไทย ล่าสุดไดกิ้นจึงได้ร่วมสนับสนุนงานวิจัยการพัฒนาต้นแบบแพลตฟอร์มระบบบริหารและจัดการพลังงานอัจฉริยะของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA HiVE Platform) สำหรับบ้านพักอาศัย ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มระบบบริหารและจัดการพลังงานไฟฟ้าอัจฉริยะที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคได้ดำเนินการวิจัยและพัฒนา โดยมุ่งเน้นให้มีจุดเด่นด้านการจัดการพลังงานเป็นเลิศสำหรับบ้านพักอาศัยและสอดคล้องกับพลังงานทดแทนที่ผลิตได้ เช่น Solar PV Rooftop เพื่อให้การใช้พลังงานสุทธิของบ้านเป็นศูนย์ (Net-Zero Energy) หรือใกล้เคียง และรองรับการใช้พลังงานในภาวะฉุกเฉิน ซึ่งจะเปลี่ยนบ้านพักอาศัยธรรมดาให้เป็นบ้านอัจฉริยะ (Smart Home) นอกจากนี้ PEA HiVE Platform ยังพัฒนาให้เชื่อมต่อกับเครื่องใช้ไฟฟ้าอัจฉริยะ (Smart Appliances) และอุปกรณ์อัจฉริยะ (lOT) ได้อย่างหลากหลาย โดยเปิดให้นักพัฒนาฮาร์ดแวร์และซอฟท์แวร์ได้เข้ามาร่วมพัฒนาอุปกรณ์และแอพพลิเคชั่นให้ตรงความต้องการมากขึ้น ซึ่งสอดคล้องกับแนวคิดของไดกิ้นที่มุ่งมั่นจะผลักดันสมาร์ทโฮมให้เกิดขึ้นจริง
“ในส่วนของไดกิ้นเราเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายเครื่องปรับอากาศทั้งขนาดเล็กและขนาดอุตสาหกรรม ฉะนั้นปัจจุบันเราจึงมีแนวทางที่จะพัฒนาสินค้าให้สามารถสื่อสารกับอุปกรณ์ที่สั่งการในด้านของการควบคุมเครื่องปรับอากาศและในด้านพลังงานอยู่แล้ว จึงได้เข้าไปพูดคุยกับทางการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค จนเห็นว่ามีแนวทางและนโยบายที่สอดคล้องกัน เราเลยยินดีที่จะให้การสนับสนุนในแง่ของอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ ซึ่งจริงๆ มีเครื่องปรับอากาศในโครงการที่วิจัยร่วมกันว่าสามารถที่จะนำแพลตฟอร์มนี้มาสั่งงานฮาร์ดแวร์ของเราได้อยู่แล้ว เพราะปัจจุบันนี้มีหลายภาษาในการสื่อสารกับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ ฮาร์ดแวร์ของเราก็เป็นอีกหนึ่งภาษาที่ได้นำมาทดสอบร่วมกันและสามารถเข้ากันได้ ซึ่งนับว่า HiVE Platform ของ PEA เป็นอีกหนึ่งแพลตฟอร์มที่จะรวมการสื่อสารที่หลากหลายให้สามารถสื่อสารภายใต้แพลตฟอร์มเดียวกันได้ เพราะฉะนั้นประโยชน์ของผู้ใช้คือ สามารถเลือกซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าจากต่างรุ่น ต่างแบรนด์ ต่างระบบกัน เพื่อนำมาใช้งานร่วมกันได้ภายใต้ HiVE Platform จึงทั้งสะดวก สบาย และประหยัดพลังงานสูงสุด” สมพรกล่าว
นอกจากนี้ในส่วนของระบบปรับอากาศ ผู้บริหารไดกิ้น ยังมองว่าเพียงแค่ความอัจฉริยะทางด้านความเย็นที่ทางไดกิ้นพัฒนาให้เกิดขึ้นจริงแล้วยังไม่เพียงพอ บริษัทยังมองการณ์ไกลไปถึงการเป็นผู้นำด้านการปรับคุณภาพอากาศภายในบ้าน โดยเชื่อมโยงกับการเติมออกซิเจนเข้าสู่ภายใน รวมถึงการฟอกอากาศภายในให้มีความบริสุทธิ์และสะอาดมากขึ้น สามารถสั่งงานให้กำจัดมลพิษได้อย่างทันทีทันใด ซึ่งเป็นทิศทางที่ไดกิ้นต้องการสร้างสรรค์ให้เกิดขึ้นเพื่อให้ทุกบ้านเป็นสมาร์ทโฮมอย่างแท้จริงในอนาคต